Forever

 

*note : ไม่ใช่ฟิคแต่อย่างใดเป็นเพียงตัวอักษรที่สื่อถึงอารมณ์ของคนเขียนก็นั้นนะคะ เพราะหลังจากที่ฟัง young forever มันก็รู้สึกหน่วงๆเอง 555555 ก็เลยเขียนความรู้สึกตัวเองผ่านตัวอักษรทั้ง 1124 คำ
SWAY

ตอนนี้ขาของผมมันก้าวออกมาข้างหนึ่งแล้ว

และผมเองกำลังเดินไปบนถนนของความหวัง

ความหวังที่ผมสร้างมันขึ้นมาจากความฝัน

ช่างไร้สาระสิ้นดี ใครต่อใครก็บอกกับผมเช่นนั้น

ผมไม่สนหรอกที่เท้าของใครกำลังเหยียบย้ำผมให้จมดิน

ก็เพราะมันเป็นความฝันของผม ผมมีสิทธิ์ในการเลือกตัวละคร

เลือกบทดีๆให้กับตัวเอง ก็เพราะมันคือความฝันของผมยังไงล่ะ

มันเริ่มจมไปแล้วละขาที่ผมก้าวออกมา

อยู่ๆก็มีพื้นน้ำที่กว้างไกลมารองรับผมแทนที่จะเป็นพื้นดิน

กลัวเหลือเกินเพราะในผืนน้ำนี้ผมไม่รู้เลยว่ามันลึกแค่ไหน

ผมมองไปยังสุดขอบฟ้าและพบว่ามันยังว่างเปล่า

ผมตัดสินใจที่จะก้าวขาอีกข้างออกมา

ในทีแรกน้ำที่ตื้นอยู่แค่ค่อนขา

แต่ตอนนี้ผมจมลงไปแล้วครึ่งตัว

สายน้ำเย็นที่ปะทะเข้ามาผมรู้สึกหนาวเหลือเกิน

เสียงเรียกหนึ่งที่ตะโกนอยู่ด้านหลังทำให้ผมต้องหยุดการกระทำไว้ทั้งหมด

เป็นมือของคุณเองที่ยื่นมาแล้วจับมือที่สั่นเทาของผมไว้

อบอุ่น ที่พักพิงของผมกำลังโอบกอดผมไว้ด้วยสายตา

คุณยิ้มอีกครั้งหลังฉุดผมขึ้นมายังผืนน้ำที่ผมกลัวว่าจะจมลงไป

พร้อมกับความฝันที่ผมยังไม่เคยกล้าจะลองทำ

น้ำเสียงที่อ่อนหวานของคุณปลอบประโลมผม

บอกผมสิว่าคุณจะประคองผมไว้ด้วยสองมือของคุณ

ผมถามออกไปอย่างเห็นแก่ตัว

แต่… คุณไม่ลังเลเลยที่จะตอบตกลงกับคำถามแสนโง่ของผม

ผมออกก้าวเดินมาอีกครั้ง พร้อมมือที่กอบกุมคุณเอาไว้แน่น

เรากำลังเดินไปในเส้นทางเดียวกันใช่ไหม

เส้นทางที่มีแค่พวกเราเดินไปด้วยกัน

คุณพยักหน้าตอบรับกับทุกสิ่งที่ผมพูด รู้สึกเห็นแก่ตัวเหมือนกันนะ

เพราะว่าคุณจะได้อะไรจากการดูแลผมแบบนี้ล่ะ?

ก็ตอนนี้ผมเริ่มเดินออกไกลแล้วละ

ไกลจากคุณที่ละก้าว ทีละก้าว

ดอกไม้กำลังบานสะพรั่งในทุกๆก้าวที่ผมเหยียบลง

ผมหันหลังกลับมา และพบว่าคุณยังคงยืนอยู่

ตรงที่ๆคุณส่งผมออกมาจากความกลัว

ใบหน้าทียิ้มแย้มของคุณกำลังมองตรงมาที่ผม

คุณมอบมันไว้ให้ผมคนเดียวใช่ไหม?

รู้สึกหวาดหวั่นในขณะเดียวกันที่ผมออกเดินมาไกล

ผมเห็นแก่ตัวเกินไปหรือเปล่า?

แต่ผมก้าวออกมาไกลเกินไปผมกลับไปหาคุณไม่ได้แล้ว

คุณยังเชื่อมั่นในเด็กหนุ่มคนนี้อยู่หรือเปล่า

เพราะผมน่ะอยากให้คุณได้เห็นความสำเร็จ

ที่คุณค่อยผลักดันผมมานะ

แต่ก็นั้นแหละผมจะกลับไปหาคุณได้ยังไงในเมื่อ…

ผมอยู่ด้านบนของภูเขาลูกนี้แล้ว

คุณจะทิ้งผมไปไหมนะ?

คุณยังจะรักผมเหมือนตอนที่คุณเจอผมครั้งแรกหรือเปล่า?

ผมทำอะไรตอบแทนเพื่อคุณไม่ได้เลย

ผมเลยลองเขียนเพลงที่คุณอาจชอบไปให้

ผ่านสายลมที่พัดไปตามท้องนภา

คุณได้รับมันไว้แล้วใช่ไหม?

เพราะผมตั้งใจทำมันเพื่อคุณเลยนะ

ผมรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่ผมเห็นใบหน้าของคุณ

เพราะคุณยิ้มออกมาทุกครั้งที่มองมาที่ผม

ผมอยากให้มือของเราจับกันไปตลอดทาง

ขอโทษที่ผมเห็นแก่ตัว

ก็นั้นเป็นเพราะผมรักคุณ

 

  

 

 tumblr_mi4j1pv6gA1s43s6do1_500.gif

 

 

 

ฉันเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งหลงทางอยู่ในความกลัว

กลางท้องทะเลที่กว้างใหญ่เขายืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว

ไม่รู้อะไรที่ทำให้ฉันกล้าเดินลงไปเพื่อฉุดรั้งคนแปลกหน้าอย่างคุณ

ใจที่ค่อนข้างสับสนของฉันมันเต้นรัวเมื่อหน้าตาเศร้าๆของคุณ

เงยขึ้นมองแผ่นฟ้าสีคราม

ฉันยิ้มขึ้นมา เพราะไม่อยากให้คุณกลัว

ฉันแค่อยากปลอบประโลมความกลัวของคุณ เพราะฉันน่ะก็เคยกลัว

เหมือนอย่างที่คุณกำลังเป็น

ฉันเอ่ยคำมั่นสัญญากับคนที่แทบจะไม่รู้จักว่าฉันจะคอยจับมือคุณไปด้วยกัน

ไปบนเส้นทางที่คุณอย่างจะไป ฉันพร้อมถ้าเราจะเดินออกมาจากทางแยก

แห่งความสิ้นหวัง เพราะฉันน่ะอยากเห็นรอยยิ้มของคุณ

ในตอนที่คุณมีทุกอย่างพร้อมแล้ว

ขอบฟ้าที่เราเห็นอยู่ตรงหน้ามันดูว่างเปล่า

แต่ฉันกลับบอกคุณไปว่า ไม่เป็นไร

เราจะสร้างทุกอย่างจากความว่างเปล่าด้วยกัน

ฉันเชื่อมั่นถ้าหากว่าเป็นคุณแล้วละก็ฉันเชื่ออย่างเต็มร้อยเลย

คุณมักจะถามหาความมั่นใจในตัวฉันเสมอ

แต่คุณไม่ต้องกลัวไปหรอก ฉันทิ้งให้คุณเดินไปตามลำพังไม่ได้

แต่ตอนนี้คุณเองเริ่มเดินเร็วกว่าฉันไปก้าวหนึ่งแล้วนะ

อ่า ไม่เป็นไรหรอกคุณเดินไปเถอะ

ดูสิตอนนี้เหล่าวิหกที่เหินฟ้าอยู่บนท้องนภากลับบินมาเคียงข้างคุณ

วิหกที่ดูสีสันสวยงามมันบดบังฉันจนฉันเริ่มจะมองเห็นคุณไม่ชัดแล้ว

กลัว ใจฉันเริ่มไม่ค่อยมั่นคงเลยล่ะ เพราะมีคนอื่นๆกำลังเดินไปทางคุณ

ทางเส้นเดียวกับที่คุณกำลังเดินไป เด็กหนุ่มของฉันไม่เป็นไรนะ

รอยยิ้มที่มีค่าของฉันน่ะมอบให้คุณคนเดียวอย่างกังวลไปเลย

ตลอดไปฉันอาจพูดคำนั้นออกมาไม่ได้หรอก เพราะฉันเอง

ก็กลัวว่าคุณจะปล่อยมือฉันไปเช่นกัน

ก็คุณเริ่มอยู่ไกลเกินกว่าฉันจะเอื้อมถึงแล้ว

อย่างร้องไห้นะ ฉันไม่ได้ไปไหน

ฉันยังคอยผลักดันให้คุณเดินทางต่อไปด้วยกำลังใจของฉันเอง

มันจะมีค่าพอหรือเปล่าแค่กำลังใจของฉันน่ะ?

มันจะปลอบให้คุณหายเหนื่อยได้ไหมในเวลาที่ฉันมองไม่เห็นคุณ

ขอโทษนะ ขาของฉันเริ่มอ่อนแรงแล้ว

แต่คุณไม่ต้องกังวลนะ ฉันยังยิ้มอยู่ ไม่ได้ร้องไห้ อย่างที่คุณกลัว

เด็กหนุ่มที่ประสบความสำเร็จของฉัน

ฉันยังมองแค่คุณ

แค่คุณที่ยืนอยู่ด้านบนของภูเขาแห่งความฝัน

คุณยิ้มใช่ไหม?

ไม่ได้ร้องไห้ใช่หรือเปล่า?

อย่าร้องไห้เลยนะ เพราะฉันจะเจ็บปวดเมื่อคุณร้องไห้

อ่อนไหวไปตามแรงลมดอกไม้ที่ล้ำค่า

แต่อย่าร่วงโรยดั่งใบไม้ที่แห้งเฉาเลย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

First Kiss{JungkookxNamjun}

title: First Kiss

pairing: JungkookxNamjun

rating: G

1cm

 

ใกล้…. มันใกล้เกินไปจนทำให้หัวใจของใครบางคนกำลังทำงานเกินหน้าที่ ปกติแล้วมันควรจะเต้นแค่72ครั้ง/นาที  แต่ตอนนี้ก้อนเนื้อที่เรียกว่าหัวใจมันกำลังจะทำให้คิมนัมจุนแทบเป็นบ้า

 

 

 

 

 

 

“พี่นัมจุนครับ” เสียงเรียกของเด็กที่อายุน้อยกว่าเจ้าของชื่อปลุกนัมจุนที่กำลังหลับอยู่บนเตียงนอนให้ตื่นขึ้น เสียงตอบรับครางในลำคอบ่งบอกว่าเขาตื่นแล้วในขนาดที่ยังไม่อยากลืมตาก็เถอะ ใบหน้าครึ่งหลับครึ่งตื่นจับจ้องไปยังผู้มาก่อกวนความสุขของเขาในเวลาเช้า

 

 

“มีอะไร”

“ผมทำอาหารเช้าเสร็จพอดีเลยไม่อยากให้มันเย็นเดี๋ยวจะไม่อร่อย เลยมาเรียกพี่ลงไปกินด้วยกันน่ะครับ”

“อื้อๆ เดี๋ยวลงไป”

 

 

 

 

แม้ว่าจะตกปากรับคำของผู้เป็นน้องแต่เจ้าตัวก็ยังทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆที่เพิ่งลุกขึ้นมาเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน ถึงเรื่องของกินจะเป็นอันดับหนึ่งไม่เป็นรองในการนอนของนัมจุนแล้วล่ะก็แต่นี่มันก็เช้าวันเสาร์วันที่อากาศดีๆหิมะแรกเริ่มตกมันเหมาะแก่การซุกตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาซะมากกว่าการตื่นตั้งแต่ไก่โห่เป็นไหนๆ

หลังการทิ้งตัวลงไปของนัมจุนก็ทำให้คนน้องพยายามดึงดันอีกคนให้ลุกขึ้นมาตามที่ตัวเองต้องการ เปล่าประโยชน์ เมื่อคนเป็นพี่มีร่างที่สูงกว่าทำให้เขาเสียเปรียบในเวลาแบบนี้ อ่า จอนจองกุก รู้สึกอยากจะสูงกว่าอีกคนก็เวลาแบบนี้แหละ ใช่จอนจองกุกเตี้ยกว่าคิมนัมจุน ตั้ง 4เซนติเมตร ตั้ง 4เซนเลยนะ เพราะเวลายืนข้างๆกันทำให้เขากลายเป็นน้องชายตัวเล็กที่น่ารักน่าเอ็นดูในหมู่พี่ๆ มันก็ดีอยู่หรอกถ้าคนอื่นจะชอบจะเอ็นดู แต่สำหรับจองกุกแล้วมันค่อนข้างน่าอายอยู่เหมือนกันที่ตัวเองดูเด็กกว่าคนที่ชอบ เขาก็อยากจะเป็นผู้ชายเท่ๆ ให้คิมนัมจุนชื่นชอบบ้างก็เท่านั้น

 

 

 

เสียงอู้อี้ฟังไม่ค่อยจะได้ศัพท์เอ่ยขึ้นมา หลังจากนอนมองเพดานมาซักพัก

 

“จองกุกอ่าาาาา~ พี่ขออีกห้านาทีนะ”

“แลกกับอะไรครับ?” จองกุกก็แค่นึกอยากจะเอาเปรียบพี่ชายบ้าง ในตลอดเวลาที่เขาต้องค่อยทำทุกอย่างในบ้านราวกับว่าเขาตบแต่งมาเป็นภรรยาของนัมจุนซะอย่างงั้น

“อะไรก็ได้ถ้านายต้องการ”  ยิ้มเหนือกว่าผู้เป็นพี่จองกุกก็ยื่นข้อเสนอของตนให้อีกฝ่าย

“จูบหนึ่งครั้ง ฟังดูเป็นไงครับ?” ใครว่าเด็กคนนี้ไร้(ร้าย)เดียงสา

“ย่าห์ๆ มันจะมากเป็นแล้ว”

“งั้นจะบอกว่าไม่ได้หรอ? ไหนบอกว่าจะทำอะไรก็ได้ไง”

“แก่แดด”  ปากหนายู่ขึ้นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองจะโดยเอาเปรียบ

 

 

 

 

 

ไม่ใช่ว่านัมจุนไม่รู้ว่าจองกุกคิดยังไงกับตัวเอง เขารู้ ทุกคนในกลุ่มที่เป็นเพื่อนกันก็รู้ รู้ว่าจองกุกชอบคิมนัมจุนมากแค่ไหน ก็เล่นเข้ามาตีซี้กันแบบโต้งๆ ใครทีไหนจะโง่ดูไมออกว่าการกระทำของน้องมันสื่อถึงอะไร

 

 

 

 

 

10cm

 

 

 

 

 

9cm

 

 

ตั้งแต่ตอนไหนที่จองกุกมาหยุดข้างหน้า ใบหน้าที่ดูเด็กกว่ารอยยิ้มที่สดใสราวกับหลุดออกมาจากการ์ตูน ตึกตึก ตึกตึก…

 

 

8cm

7cm

6cm

.

.

.

 

ใบหน้าที่ดูเหมือนจะขึ้นสีจากอาการเขินไม่ได้หลบเลี่ยงการกระทำของจองกุก มันหยุดหมุนไปแล้วเข็มนาฬิการู้สึกเหมือนทุกอย่างช้าลง ร่างกายของอีกคนค่อยๆขยับเข้ามา อีกครั้งที่คนเป็นพี่รู้สึกสูญเสียการควบคุมตัวเองไปชั่วขณะ มันใกล้เข้ามาอีกแล้ว

 

 

 

5cm

4cm

ตึกตึก

ตึกตึก

3cm

.

.

.

 

 

 

 

 

2cm

.

.

.

.

เต้นแรงขึ้นทุกทีหัวใจดวงนี้คล้ายกับเดินเหยียบระเบิด มันพร้อมที่จะรับการสั่นสะเทือนของแรงระเบิดทุกเมื่อถ้าริมฝีปากของคนทั้งสองคนสัมผัสกัน

 

 

 

 

 

1cm

 

บรรจบกันริมฝีปากของอีกฝ่ายกำลังแตะบนริมฝีปากของนัมจุน เสี้ยววินาทีแรกที่สัมผัสนัมจุนเกือบจะมันผละมันออกแต่ด้วยเพราะความมือไวของน้องประคองท้ายทอยเอาไว้นัมจุนเลยไม่มีที่ให้หนี เหมือนกำลังถูกไล่ต้อนให้จนมุมกำแพง จองกุกที่ใครๆก็มองว่าเหมือนกระต่าย ใครว่าล่ะ? นี่มันจิ้งจอกชัดๆ

 

“อื้อ”

 

ขบฟันของตัวเองลงบนริมฝีปากหนาของพี่เพื่อเปิดทางให้ได้ชิมความหวานในโพรงปาก ไม่ได้เร้าร้อนเหมือนกับผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ไร้เดียงสาเกินไป เพราะพวกเขาค่อยๆทำมันอย่างช้าๆ ลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่ตรงหน้าทำให้เขินมากขึ้นไปอีก

จองกุกพยายามทำให้ดีที่สุดในจูบแรกของพวกเขา มันจะดูเงอะงะเกินไปไหม หรือจะดูดุดันเกินสมควร เขากังวลในเรื่องนี้พอสมควรตอนที่ผละออกจากนัมจุนแล้ว

 

“จูบแรก/จูบแรก”

 

……..

 

รู้สึกขัดเขินไปหมดทั้งคู่ เมื่อได้ยินสิ่งที่ตัวเองพูดเหมือนเสียงกระท้อนกลับ จองกุกยิ้มให้กับท่าทางที่เขินอายของพี่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน สั่นไหว.. ราวกับเขาได้จูบกันอีกรอบงั้นแหละ ก็พี่นัมจุนตอนนี้น่ารักจนจองกุกคนนี้ อยากจะโตเป็นหนุ่มเร็วๆซะที

 

“พี่พูดก่อนเลย”

“อ่า…..”

“……..”  จองกุกเลิกคิ้วขึ้นมองอีกคนแต่ก็ต้องกลั้นขำเมื่อเห็นหน้าแดงๆตอนที่เงยหน้ามอง

“จูบแรก”

“ก็ไม่ได้แย่เท่าไรนะ”

 

 

 

 

 

 

Talk With Me

อะไรรรรรรรร นี่มันอะไรอีกแล้วไม่ทันได้ตั้งตัวเขียนแบบง่วงๆ

มีอารมณ์(?)ตอนเที่ยงคืนกว่าๆได้เลยรีบเขียนกลัวว่าถ้าเลยวันนี้

ไปจะขี้เกียจอีกยาว 5555555

คือแบบเรื่องนี้ไม้มีหรอกนะริมฝีปากบางอะไร มีแต่นัมจุนของกุ๊กกี้

.///.

ปล.ที่จริงเรารู้สึกว่าแต่งยากมากอ่ะแบบบรรยายฉากจูบไม่เป็นสับปะรดเลย